วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดเรื่องหลักทฤษฎีการสื่อสารกับเทคโนโลยีการศึกษา


หลักทฤษฎีการสื่อสาร

กับเทคโนโลยีการศึกษา

แบบฝึกหัด

1. ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กี่ประเภทอะไรบ้าง

ตอบ    ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติมี  4  ประเภท ได้แก่
           - สื่อโสตทัศน์
           - สื่อมวลชน
           - สื่ออิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม รวมคอมพิวเตอร์
           -สื่อที่เป็นแหล่งวิทยาการ เช่น หอสมุด ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์

 2. ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามลักษณะทั่วไปได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงหาภาพมาประกอบ

ตอบ    ประเภทของสื่อเทคโนโลยีการศึกษาแบ่งตามลักษณะทั่วไปได้
            3 ประเภท ได้แก่
               1.สื่อที่ไม่ต้องฉาย (non projected material) เป็นสื่อที่ใช้การทางทัศนะโดยไม่ต้องใช้เครื่องฉายร่วมด้วย แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
                    1.1 สื่อภาพ (illustrative materials) เป็นสื่อที่สามารถถ่ายทอดเนื้อหา เช่น ภาพกราฟิก กราฟ แผนที่ ของจริง ของจำลอง




            1.2 กระดานสาธิต (demonstration boards) ใช้ในการนำเสนอเนื้อหา เช่นกระดานชอล์ก กระดานนิเทศ กระดานแม่เหล็ก กระดานผ้าสำลี ฯลฯ




             1.3 กิจกรรม(activities)
              2.สื่อที่ต้องฉาย (projected material)


                 3.สื่อที่เกี่ยวกับเสียง (Audio material)




3. ประเภทของเทคโนโลยีการศึกษาที่แบ่งตามประสบการณ์ เป็นของนักการศึกษาท่านใด และมีการจัดประสบการณ์จากนามธรรมไปสู่รูปธรรมโดยเริ่มต้นจากประสบการณ์ใดไปประสบการณ์ใดจงอธิบาย
ตอบ       เอ็ดการ์ เดลย์ (Dale, 1969) ได้กำหนดให้การศึกษานอกสถานที่ เป็นประสบการณ์ที่เป็นรูปธรรมประเภทหนึ่ง ในลำดับขั้นของกรวยประสบการณ์ (Cone of Experience) และกล่าวว่าการศึกษานอกสถานที่ เป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันในประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายที่นำไปสู่ความสมบูรณ์ชัดเจนในเรื่องต่างๆ ประสบการณ์ตรงที่มีคุณค่า สามารถจะเกิดขึ้นได้ในระหว่างศึกษานอกสถานที่ โดยตัวของกิจกรรมการศึกษานอกสถานที่นั้น คือการดำเนินการสังเกตในสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นจริงที่ผู้เรียนได้เข้ามามีส่วนร่วมทางกายภาพที่สมบูรณ์ในเหตุการณ์ต่างๆ อันเป็นสิ่งที่ไม่มีจากการเรียนในห้องเรียน
ขั้นตอนของประสบการณ์การเรียนรู้และการใช้สื่อแต่ละประเภท ดังนี้
1.  ประสบการณ์ตรง  เป็นประสบการณ์ที่ผู้เรียนสามารถรับรู้ได้ด้วยตนเองจากประสาทสัมผัสทั้งห้า  ซึ่งเกิดจากการได้ปฏิบัติกิจกรรมและได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริง
2.  ประสบการณ์รอง  เป็นประสบการณ์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงมากที่สุด เนื่องจากประสบการณ์ตรงบางอย่างนั้นไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง อาจเป็นอันตรายเกินกว่าที่จะเรียนรู้ได้  อาจมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน  มีขนาดใหญ่หรือเล็กเกินไป    ทำให้ไม่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงได้ จึงจำเป็นต้องจำลองหรือเลียนแบบให้มี  ลักษณะที่ใกล้เคียงหรือเหมือนจริงมากที่สุด  เพื่อความสะดวก ปลอดภัยและง่ายต่อความเข้าใจ  เช่น  สถานการณ์จำลอง  หุ่นจำลอง   เป็นต้น
3.  ประสบการณ์นาฏการ เป็นการจำลองสถานการณ์อย่างหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงความเหมือนหรือใกล้เคียงกับประสบการณ์จริง  เพื่อจัดประสบการณ์ให้แก่ผู้เรียนด้วยเหตุที่มี ข้อจำกัดต่างๆ ได้แก่   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อในอดีต  สถานที่ หรือสิ่งที่เป็นนามธรรม  ซึ่งไม่สามารถจัดเป็นประสบการณ์รองได้   เช่น  การแสดงละคร  บทบาทสมมุติ  เป็นต้น
4.  การสาธิต  เป็นการกระทำหรือแสดงให้ดูเป็นแบบอย่างประกอบการอธิบายหรือบรรยาย
5.  การศึกษานอกสถานที่  เป็นประสบการณ์เรียนรู้ที่ได้จากแหล่งความรู้ภายนอกห้องเรียนในสภาพความเป็นจริง 
6.  นิทรรศการ  เป็นการนำประสบการณ์ที่สามารถสัมผัสได้หลาย ๆ ด้าน มาจัดแสดงผสมผสานร่วมกัน
7.  โทรทัศน์และภาพยนตร์ เป็นประสบการณ์ที่ให้ทั้งภาพเคลื่อนไหวและมีเสียงประกอบ   แต่โทรทัศน์  มีความเป็นรูปธรรมมากกว่าภาพยนตร์  เนื่องจากโทรทัศน์สามารถนำเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น  ในขณะนั้นมาให้ชมได้ในเวลาเดียวกันที่เรียกว่า การถ่ายทอดสดในขณะที่ภาพยนตร์เป็น การบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องผ่านกระบวนการล้างและตัดต่อฟิล์มก่อนจึงจะนำมาฉายให้ชมได้
8.  การบันทึกเสียง วิทยุและภาพนิ่ง เป็นประสบการณ์ที่สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสทางตาหรือทางหู  เพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
9.  ทัศนสัญลักษณ์  เป็นสัญลักษณ์ที่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทางตา  
10. วจนสัญลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์ทางภาษา




4. การสื่อสารหมายถึงอะไร
ตอบ      สื่อการสอน หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ ซึ่งถูกนำมาใช้ในการการเรียนการสอน เพื่อเป็นตัวกลางในการนำส่งหรือถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และเจตคติ จากผู้สอนหรือแหล่งความรู้ไปยังผู้เรียน ช่วยให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่ตั้งไว้


5. สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในองค์ประกอบใด จงอธิบาย
ตอบ     สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารในองค์ประกอบของ สาร ( Massage ) เพราะ สื่อและเทคโนโลยีการศึกษานั้น เป็นตัวกลางที่ช่วยถ่ายทอดความรู้จากผู้สอนไปสู่ผู้เรียน

6. จงเขียนแบบจำลองของการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล มาพอเข้าใจ
ตอบ    เดวิด เค เบอร์โล (David K. Berlo) เสนอแบบจำลองการสื่อสารไว้ เมื่อปี พ.. 2503 โดยอธิบายว่า การสื่อสารประกอบด้วยส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการ คือ
          1. ต้นแหล่งสาร (communication source)
2. ผู้เข้ารหัส (encoder)
3. สาร (message)
4. ช่องทาง (channel)
5. ผู้ถอดรหัส (decoder)
6. ผู้รับสาร (communication receiver)
จากส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญ 6 ประการนั้น เบอร์โล ได้นำเสนอเป็นแบบจำลองการสื่อสารที่รู้จักกันดีโดยทั่วไปว่า "แบบจำลอง SMCR ของเบอร์โล"(Berlo's SMCR Model) โดยเบอร์โลได้รวมต้นแหล่งสารกับผู้เข้ารหัสไว้ในฐานะต้นแหล่งสารหรือผู้ส่งสาร และรวมผู้ถอดรหัสกับผู้รับสารไว้ในฐานะผู้รับสาร แบบจำลองการสื่อสารตามแนวคิดของเบอร์โลนี้ จึงประกอบไปด้วย S (Source or Sender) คือ ผู้ส่งสาร M (Message) คือ สาร C (Channel) คือ ช่องทางการสื่อสาร R (Receiver) คือ ผู้รับสาร ซึ่งปรากฏในภาพต่อไปนี้



แบบจำลองการสื่อสารตามแนวคิดของเดวิด เค เบอร์โล
(แบบจำลองการสื่อสาร S M C R)

7. อุปสรรคของการสื่อสารมีอะไรบ้าง
ตอบ  
               1. ผู้ส่งสาร ถ้าผู้ส่งสารขาดพื้นความรู้และประสบการณ์ในเรื่องที่จะสื่อสาร แต่จำต้องพูดหรือเขียนออกไป ก็จะทำให้การสื่อสารนั้นกระท่อนกระแท่น ไม่มีแก่น

                2. สาร อาจเป็นอุปสรรคในการสื่อสารได้ ถ้าซับซ้อนเกินไป หรือลึกซึ้งจนเกินกำลังสติปัญญาของผู้รับสาร   หรือห่างไกลจากประสบการณ์ของผู้รับสารมากเกินไปหรือมีความขัดแย้งกันในตัวสารนั้นเอง ผู้รับสารก็จะเกิดความสับสน ในที่สุดก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะรับสาร
                 3. ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารนั้น ถ้าผู้รับสารไม่สามารถเข้าใจได้ หรือเข้าใจเพียงเลือนราง หรือเป็นภาษาที่ผิดระดับ หรือเป็นสำนวนภาษาที่ไม่ตรงตามเนื้อหาของเรื่องราวที่จะส่งสาร ภาษที่ใช้นั้นก็จะกลายเป็นอุปสรรคในการสื่อสารได้มาก
                 4. ผู้รับสาร ถ้าผู้รับสารขาดพื้นฐานความรู้และประสบการณ์ที่จำเป็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านหรือฟัง ย่อมไม่สามารถเข้าใจสารที่ส่งมาได้ หรือหากจะเข้าใจก็เข้าใจเพียงครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น ไม่สามารถรับสารโดยสมบูรณ์ได้

                5. สื่อ ถ้าสื่อในการนำสารขัดข้อง เช่น พูดกันในสถานที่ที่มีเสียงอื้ออึงรบกวน พูดผ่านเครื่องขยายเสียงที่ปรับไม่พอเหมาะ พูดผ่านเครื่องโทรศัพท์ที่มีความขัดข้องทางเทคนิคหรือเขียนตัวหนังสือหวัดมาก ใช้ตัวพิมพ์ที่เลอะเลือน ก็ย่อมทำให้ผู้รับสารได้ไม่สะดวก หรืออาจรับไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่ผู้ส่งสารได้เตรียมสารไว้เป็นอย่างดี และผู้รับสารก็พร้อมที่จะรับสาร
                 
6. กาลเทศะและสภาวะแวดล้อม    เวลา   สถานที่     และสภาพแวดล้อม ที่เหมาะสมย่อมให้เกิดการสื่อสารที่ดี ตรงกันข้ามเวลา สถานที่ และสภาพแวดล้อม ที่ไม่เหมาะสมก็อาจเป็นอุปสรรคแก่การสื่อสาร
8. บทเรียน e-Learning เป็นส่วนใดขององค์ประกอบของการสื่อสาร
ตอบ   สื่อหรือช่องทาง (Media or Channel)

9. ครูบอยกำลังสอนเนื้อหาวิชาภาษาอังกฤษเรื่อง Grammar ด้วยวีดิทัศน์กับนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 จากข้อความดังกล่าวให้นิสิตเขียนแบบจำลองการสื่อสารของเดวิดเบอร์โล
ตอบ



10. การปฐมนิเทศนิสิตใหม่ ณ หอประชุมธำรงบัวศรี เป็นการสื่อสารประเภทใด
ตอบ  การสื่อสารแบบกลุ่มใหญ่ (Large group Communication)

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษา


ตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษา













                      ทุกวันนี้คำว่า "เว็บไซต์ โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ( Social Network )    หรือ "เครือข่ายสังคมออนไลน์" ไม่ใช่คำใหม่ในสังคมอีกแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ทำให้โลกปัจจุบันกลายเป็นโลกที่ไร้พรมแดนไปแล้ว
                     
ในด้านการพัฒนาการศึกษาโดยอาศัยประโยชน์จากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน"โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ครูผู้สอน และนักเรียนใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น นอกเหนือจากเวลาที่อยู่ในห้องเรียน ดังนั้นโซเชียลเน็ตเวิร์ก จัดว่าเป็นเทคโนโลยีการศึกษาที่มีความสำคัญมากต่อการพัฒนาระบบการศึกษาให้ทันสมัย ทันต่อกระแสแห่งยุคโลกาภิวัฒน์



ความคาดหวังของการเรียนรายวิชาเทคโนโลยีการศึกษา


ความคาดหวังของการเรียนรายวิชาเทคโนโลยีการศึกษา


( Educational Technology )



                การศึกษาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา       จะสามารถช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจระบบการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงไปตามการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ   ที่ได้นำเข้ามาใช้ในระบบการศึกษาเพราะเมื่อมีการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การศึกษาต้องตกเป็นฝ่ายรับ ดังนั้นการศึกษาจึงจำเป็นต้องพัฒนาตามไปด้วย         ตัวอย่างเช่น    Tablet   ที่นำเข้ามาประยุกต์เข้ากับระบบการศึกษาในประเทศไทย     หรืออาจจะเป็นสื่อการเรียนการสอนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต     ที่เรียกว่า E-learning และผู้เรียนจะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปสร้างสื่อประสม หรือมัลติมีเดีย เพื่อใช้ในระบบการศึกษาในอนาคต










ความหมายของ "เทคโนโลยีการศึกษา"


ความหมายของ "เทคโนโลยีการศึกษา"

                 สภาเทคโนโลยีทางการศึกษานานาชาติ     ได้ให้คำจำกัดความของ   เทคโนโลยีทางการศึกษา      ว่าเป็นการพัฒนาและประยุกต์ระบบเทคนิคและอุปกรณ์      ให้สามารถนำมาใช้ในสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ของคนให้ดียิ่งขึ้น
                 ดร.เปรื่อง  กุมุท  ได้กล่าวถึงความหมายของเทคโนโลยีการศึกษาว่า    เป็นการขยายขอบข่ายของการใช้สื่อการสอน ให้กว้างขวางขึ้นทั้งในด้านบุคคล วัสดุเครื่องมือ สถานที่ และกิจกรรมต่างๆในกระบวนการเรียนการสอน

                  เทคโนโลยีทางการศึกษา มีความหมายที่กว้างกว่า  ซึ่งอาจจะพิจารณาจากความคิดรวบยอดของเทคโนโลยีได้เป็น 2 ประการ คือ
                  1. ความคิดรวบยอดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ ตามความคิดรวบยอดนี้  เทคโนโลยีทางการศึกษาหมายถึง การประยุกต์วิทยาศาสตร์กายภาพ ในรูปของสิ่งประดิษฐ์ เช่น    เครื่องฉายภาพยนตร์ โทรทัศน์ ฯลฯ มาใช้สำหรับการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นส่วนใหญ่ การใช้เครื่องมือเหล่านี้ มักคำนึงถึงเฉพาะการควบคุมให้เครื่องทำงาน      มักไม่คำนึงถึงจิตวิทยาการเรียนรู้ โดยเฉพาะเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล และการเลือกสื่อให้ตรงกับเนื้อหาวิชา
                  ความหมายของเทคโนโลยีทางการศึกษา ตามความคิดรวบยอดนี้      ทำให้บทบาทของเทคโนโลยีทางการศึกษาแคบลงไป คือมีเพียงวัสดุ และอุปกรณ์เท่านั้น ไม่รวมวิธีการ หรือปฏิกิริยาสัมพันธ์อื่น ๆ เข้าไปด้วย ซึ่งตามความหมายนี้ก็คือ "โสตทัศนศึกษา" นั่นเอง
                  2 . ความคิดรวบยอดทางพฤติกรรมศาสตร์ เป็นการนำวิธีการทางจิตวิทยา มนุษยวิทยา กระบวนการกลุ่ม ภาษา การสื่อความหมาย การบริหาร เครื่องยนต์กลไก การรับรู้มาใช้ควบคู่กับผลิตกรรมทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม เพื่อให้ผู้เรียน เปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นมิใช่เพียงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์เท่านั้น แต่รวมถึงวิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้าไปด้วย มิใช่วัสดุ หรืออุปกรณ์ แต่เพียงอย่างเดียว

                  ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า
                   เทคโนโลยีทางการศึกษา หมายถึง ศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนำวิธีการ มาปรับปรุงประสิทธิภาพของการศึกษาให้สูงขึ้น   โดยการนำเทคโนโลยีบางอย่างมาประยุกต์ใช้กับการศึกษา เพื่อสร้างเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดง่ายและรวดเร็วขึ้น เทคโนโลยีทางการศึกษาครอบคลุมองค์ประกอบ 3 ประการ คือ วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ